top of page

เปิดการแสดงศิลปะนานาชาติอย่างยิ่งใหญ่อลังการ KORAT International Arts and Culture Festival 2018

  • รูปภาพนักเขียน: NRRUPR
    NRRUPR
  • 5 ก.พ. 2561
  • ยาว 1 นาที

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานอุทยานธรณีโคราช (Khorat Geopark) จัดพิธีเปิดงานเทศกาลโคราชศิลปะและวัฒนธรรมนานาชาติ 2561 : KORAT International Arts and Culture Festival 2018 “จากดินแดนฟอสซิลดึกดำบรรพ์ สู่มหานครแห่งวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง” “Through Fossil Sites to the Prosperous Culture City” ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน คณะผู้บริหาร ผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานกว่า 20,000 คน

ภายในงานได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือศิลปะและวัฒนธรรมระดับนานาชาติ ระหว่าง ม.ราชภัฏนครราชสีมา กับ คณะนักแสดง โดยมี ดร.อานรรต ใจสำราญ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ เป็นประธานการลงนามความร่วมมือ ณ ห้องประชุม ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาโคราช วัดสุทธจินดาวรวิหาร ต่อด้วยการเดินขบวนพาเหรดศิลปวัฒนธรรมนานาชาติ ไปยังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี การแสดงชุดพิธีเปิด โดย สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย ม.ราชภัฏนครราชสีมา แล้วจึงเป็นการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมนานาชาติ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมจาก ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี และม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง

เทศกาลโคราชศิลปะและวัฒนธรรมนานาชาติ 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ภายในงานได้จัดให้มีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมจาก 14 ประเทศทั่วโลก คือ ประเทศบังคลาเทศ จีน กานา กรีซ ศรีลังกา รัสเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เนปาล กัมพูชา ฟิลิปปินส์ บรูไน การแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาคของไทย ชมนิทรรศการ KHORAT GEOPARK มหานครแห่งบรรพชีวินโลก เพื่อเผยแพร่กิจกรรมบริการวิชาการด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมต่อสาธารณชนอันเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกันระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวทางวัฒนธรรมสู่การพัฒนาอุทยานธรณีโคราชให้เป็นไปตามแนวทางยูเนสโก นั่นคือ การอนุรักษ์ การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมสำคัญในการดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา โดยนำเอกลักษณ์ที่โดดเด่น อุทยานธรณีโคราช มาบูรณาการให้สอดคล้องกับศิลปวัฒนธรรมกับมรดกทางธรณีวิทยา อีกทั้งเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอน การดำเนินกิจกรรมของนักศึกษา เกิดความประทับใจและประจักษ์ในการแสดงศิลปวัฒนธรรมแต่ละชาติ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน อีกทั้งยังส่งผลต่อการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในระดับจังหวัดและระดับชาติ ทำให้เกิดประโยชน์ในการนำประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ดำเนินงานด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวสืบไป


 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page